การตั้งรับแบบ 2-1-2 นิยมเล่นกันมาก เพราะสามารถเปลี่ยนสภาพของรูปแบบได้ง่าย โดยการเคลื่อนที่ของคนกลางขึ้นหรือลงเพียงคนเดียวเท่านั้นก็จะทำให้รูปแบบเปลี่ยนไป การตั้งรับแบบนี้มักใช้กับทีมตรงข้ามที่เก่งในการส่งบอลวงนอก ซึ่งสามารถป้องกันพื้นที่เขตโทษได้ดี และป้องกันการยิงประตูในระยะไกล การตั้งรับแบบนี้จะมีผู้เล่น 2 คน อยู่กลาง 1 คน และอยู่หลัง 2 คน โดยแต่ละคนจะต้องคอยดูแลรับผิดชอบพื้นที่ของตน 2. การตั้งรับแบบ 1-2-2 เป็นการป้องกันการยิงประตูในระยะไกลบริเวณหัวกระโหลกของเขตโทษได้ดีแต่ด้อยในการป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่ รุกใต้แป้น และการตั้งรับแบบนี้จะมีผู้เล่นอยู่ 1 คน อยู่กลาง 2 คน อยู่หลัง 2 คน คอยดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ของตน 3. การตั้งรับแบบ 3-2 ใช้เมื่อผู้เล่นศูนย์หน้าและผู้เล่นหลัง หรือการ์ด 2 คน ยิงประตูวงนอกได้แม่นยำ แต่ขาดประสิทธิภาพในการรุกใต้แป้นโดยการตั้งรับแบบนี้จะมีผู้เล่นอยู่หน้า 3 คน และอยู่หลัง 2 คน คอยดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ของตน 4. การตั้งรับแบบ 2-3 มักใช้กับทีมตรงข้ามที่มีความสามารถรุกใต้แป้นได้ดี โดยการตั้งรับแบบนี้จะมีผู้เล่นอยู่หน้า 2 คน และอยู่หลัง 3 คน คอยดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ของตน การป้องกันแบบ แมน-ทู-แมน มีวิธีปฏิบัติดังนี้ 1.
ติดตามเราตอนนี้เลย คลิก
ควรสังเกตว่าพวกเขามักจะถูกกำหนดให้เป็นฐานสำหรับผู้เล่นที่สั้นกว่าและตั้งอยู่ตรงกลางของปริมณฑล ในระดับตัวเลข ผู้เล่นคนนี้มักจะถูกกำหนดหมายเลข "1" ทักษะเฉพาะของพื้นฐานที่ดีคือ: คุมบอลได้เยี่ยม ความคล่องตัวในเท้า ความคล่องแคล่วในมือสำหรับการป้องกัน ความเก่งกาจมากมายในการเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างในร่มและกลางแจ้ง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมองเห็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าฐานจะเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด แต่กลยุทธ์ของเกมบางอย่างก็พยายามทำโดยปราศจากมัน ด้วยเหตุผลนี้ บาสเก็ตบอลสมัยใหม่จึงเป็นไปได้ที่จะหาบางทีมที่ให้สิทธิ์ หน้าที่ส่วนใหญ่ของฐานกับยาม. ยามยิงปืน เรียกอีกอย่างว่าไปข้างหน้าต่ำซึ่งเป็นตำแหน่งกลางระหว่างไปข้างหน้าและฐาน โดดเด่นด้วยความสามารถในการออกกำลังกายสามหน้าที่ภายนอก: ยาม, ยามชี้และไปข้างหน้า ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร ผู้เล่นที่ใหญ่กว่าฐานมักจะได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งนี้ ในระดับตัวเลข มันคือ มักจะกำหนดหมายเลข "2" นอกเหนือจากการที่ใหญ่กว่า ผู้พิทักษ์ที่ดีควรมีทักษะแบบเดียวกับที่ตำแหน่งฐานควรมี อย่างไรก็ตาม การ์ดยิงปืนต่างกันตรงที่พวกเขาต้องมีทักษะในการทำคะแนนมากขึ้น พื้นที่เล่นของเขาอยู่ข้างนอก รอบๆ ห่างจากริมโขงเกิน XNUMX เมตร.
เริ่มจากเท้าควรวางเท้าใดเท้านึงนำเล็กน้อย หรืออาจจะวางเท้าในระดับเดียวกันแต่ห่างออกจากกันก็ได้ 2. ย่อเข่าลงเล็กน้อยใช้มือข้างที่ถนัดจับอยู่ที่ใต้ลูกบาส ส่วนอีกมือก็ช่วยประคองลูก ยกลูกขึ้นเหนือศีรษะ 3. สายตาเล็งไปที่ห่วง หรืออาจจะเล็งไปที่กรอบสี่เหลี่ยมก็ได้ 4. ชูตบาส โดยการส่งแรงจากหัวเข่าขึ้นมา แขนยืนตรงออกไปให้สุด ใช้ข้อมือสะบัดลูกออกไป การกระโดดชูต Jump Shot การกระโดดชูตนั้นเป็นท่าชูตที่ผู้เล่นส่งแรงจากการกระโดดขึ้นมาทำให้สามารถชูตได้ในระยะที่ไกล เหมาะสำหรับการทำแต้ม 3 คะแนน และยังสามารถใช้ในการชูตที่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามาขัดขวางได้ 1. ย่อเข่าลงเพื่อเตรียมกระโดดขึ้น มือทั้งสองขัางจับบอลอยู่ในระดับหน้าอก 2. สายตาเล็งไปยังห่วงบาส 3. ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ มือข้างที่ถนัดอยู่ใต้ลูกส่วนอีกมือช่วยประคองลูก ศอกและแขนตั้งตรงไม่เอียง 4.
จับลูกบอลด้วยมือทั้งสองระดับอกห่างตัวเล็กน้อย 2. หักข้อมือทั้งสองขึ้นเล็กน้อย 3. ผลักบอลด้วยการเหยียดแขนและตวัดข้อมือลง ผลักด้วยปลายนิ้ว การ Lay Up การ lay up หรือ การวิ่งกระโดดทำแต้ม เป็นอีกหนึ่งวิธีในการทำแต้มซึ่งจะแตกต่างจากการยืนชูตอย่างสิ้นเชิง การ lay up เป็นทักษะพื้นฐานที่ยากกว่าการทำแต้มแบบอื่นๆ แต่จะเป็นวิธีการทำแต้มที่รวดเร็วและสามารถเข้าใกล้ห่วงประตูได้มากที่สุด การที่จะเข้าไป lay up นั้นควรมีทักษะการเลี้ยงและการวิ่งที่ชำนาญ วิธีการ lay up โดยคร่าวๆ 1. จับลูกบาสให้มั่นคง 2. เริ่มก้าวขาข้างที่ถนัดก่อน 3. ก้าวต่อไปเป็นก้าวที่สอง แล้วทำการกระโดดลอยตัว 4. ยกเข่าขึ้นพอประมาณ และยกแขนขึ้นให้สุด 5. ปล่อยลูกลงห่วง หรือกระแทกกับแป้นให้ลงห่วง 6. เมื่อถึงพื้นควรย่อตัวลงเพื่อลดแรงกระแทก เพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ หมายเหตุ: การ lay up ห้ามวิ่งเกิน 3 ก้าว ไม่งั้นจะเป็นการผิดกติกาบาสเกตบอล การชูตบาสพื้นฐาน การยืนชูต One Hand Set Shot รูปแบบการยืนชูตแบบ one hand นั้นเหมาะสำหรับการชูตลูก 2 แต้มคือผู้เล่นต้องอยู่ไม่ไกลจากห่วงนัก หรือไม่ก็เป็นตอนที่ได้ยิงลูกโทษ โดยการชูตแบบนี้ผู้เล่นจะไม่ได้กระโดด เพียงแต่ยืดแขนออกไปโดยใช้แขนข้างใดข้างนึง เป็นตัวนำส่วนอีกมือนึงเป็นตัวประคอง ดังนั้นการชูตรูปแบบนี้จะชูตในมุมต่ำ เวลาใช้ในสนามก็ควรชูตต่อเมื่อไม่มีคู่ต่อสู้ค่อยขัดขวาง วิธีการชูต 1.
ตำแหน่งของผู้เล่น เซ็นเตอร์ พอยต์การ์ด ชู้ตติ้งการ์ด สมอลฟอร์เวิร์ด พาเวอร์ฟอร์เวิร์ด แหล่งที่ีมา:
การรุกเร็วหรือการลักไก่ (Fast Break Attack) ใช้ในโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามที่ไปตั้งรับไม่ทันอาศัยทักษะเฉพาะตัวและการประสานงานในทีม พาลูกทีมไปยิงประตูฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว การรุกแบบรวดเร็วสนามจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่ากัน ตามแนวเส้นข้างตั้งฉากกับเส้นหลัง เนื่องจากการรุกเร็วสามารถรุกเข้าห่วงประตูทั้ง 3 ส่วนของสนามพร้อมกันในเวลาเดียวกัน จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามป้องกันได้ยากขึ้น 2.
หมายเลขของพวกเขามักจะเป็น "4" เดือย ในที่สุด เราต้องพูดถึงเดือย: ผู้เล่นที่ใหญ่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในทีม. นี่เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างมีความต้องการเนื่องจากความแข็งแรงและน้ำหนักมีความสำคัญเป็นพิเศษ แกนหมุนที่ดีต้องสามารถใช้ประโยชน์จากประโยชน์ทั้งหมดของร่างกายเพื่อให้ได้พื้นที่บนคอร์ท เมื่อทีมมีจุดหมุนที่โดดเด่น มันเป็นข้อได้เปรียบทางแทคติกที่ยอดเยี่ยม เพราะมัน นำเสนอความเป็นไปได้ในการเล่นที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเล่นที่ทำกับกองหลังของพวกเขา ในแง่ของพื้นที่เล่น ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ขอบสนาม แต่เนื่องจากความเก่งกาจของบาสเกตบอลสมัยใหม่ เป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นสำหรับเดือยที่จะตัดสินใจออกจากปริมณฑล. หมายเลขที่ได้รับมอบหมายคือ "5" โดยสรุปมีตำแหน่งบาสเกตบอลห้าตำแหน่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่อยู่ในทีมเสมอไปเนื่องจากความเก่งกาจของบาสเก็ตบอล นอกจากนี้เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นไปได้ว่าตำแหน่งเหล่านี้จะเปลี่ยนไปในอนาคต.