ไม่เพียงแต่จะดูสวยงามเท่านั้น แต่หนังสือสำหรับเด็กยังใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ง่ายๆ ที่ซ้ำซากจำเจ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเริ่มฝึกอ่าน รายชื่อหนังสือเด็กน่าอ่าน คลิก ที่นี่ คุยกับกระจก: หากคุณไม่มีใครฝึกภาษาอังกฤษด้วยเป็นประจำ ให้ฝึกกับตัวเอง! การเห็นตัวเองพูดภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นแรงกระตุ้นที่ดีเท่านั้น เพราะการได้เห็นตัวเองพูดภาษาอื่นเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแต่การสบตาและพูดกับตัวเองจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อถึงเวลาต้องพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่น. ทำเช่นนี้เป็นเวลา 10-15 นาทีอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์และการพูดและการออกเสียงของคุณต้องพัฒนาขึ้น! สร้างคำศัพท์ด้วยคำนำหน้าและคำต่อท้าย: การเรียนรู้คำนำหน้าและคำต่อท้ายต่างๆ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการขยายคำศัพท์ของคุณโดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยและความตึงเครียดทางจิตใจ ทำไม? เพราะรู้สึกเหมือนกำลังเรียนรู้คำใหม่เพียงคำเดียว ในราคาสอง! ตัวอย่างเช่น หลังจากเรียนรู้คำว่า 'สุข' แล้ว คุณก็จะเรียนรู้คำว่า 'ไม่มีความสุข' ได้ คลิก โปรดคลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับรายการคำนำหน้าและส่วนต่อท้าย คุณสามารถเริ่มท่องจำได้ตั้งแต่วันนี้ เรียนรู้สิ่งที่คุณชอบ: เมื่อคุณอยู่ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ คุณต้องเรียนรู้ทุกอย่างที่ครูของคุณจัดไว้สำหรับวันนั้น แต่เมื่อคุณอยู่ที่บ้าน คุณจะได้เรียนรู้สิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง!
Email บทเรียนภาษาอังกฤษ ทุกวัน 1 ปี)
ลงมือทำ" หลังจากพูดจบแล้ว คนที่ "เรียนรู้เร็ว" ก็ "ลงมือทำ" ในวันเดียวกัน เฉกเช่นการเรียนภาษา หากออกจากห้องเรียนแล้ว ไม่มีทางที่เราจะใช้ภาษาใหม่ได้เลยถ้าเราไม่พูด ไม่ว่าจะพูดผิดหรือถูกก็ตาม 6. " ช่างเลือก" เราไม่มีทางจัดการกับปัญหาโดยปราศจาก "วิธีการ" หรือ "กลยุทธ์" ในการแก้ปัญหาได้ สิ่งสำคัญก็คือใช้เวลาในการ "เลือก" วิธีการที่คุ้มค่ากับผลลัพธ์มากที่สุด 7. รู้ว่าตอนไหน…ควรหยุด! ถ้าบางอย่างไปไม่ได้เป็นไปตามแผนต้องรู้จักถอย…คน "เรียนรู้เร็ว" พร้อมที่จะหยุดและไม่เดินหน้าต่อ เพราะเข้าใจกฎการลดลงของผลประโยชน์ส่วนเพิ่ม (law of diminishing returns) หมายถึงทำเพิ่มขึ้นแต่ได้ output ลดลง และจะ focus เฉพาะผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นๆ 8. รู้ว่าควร "เตรียมพร้อม" สำหรับอนาคตอย่างไร? อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับคน "เรียนรู้เร็ว" ไปแล้วก็ได้…เพราะเขาสามารถที่จะประยุกต์สถานการณ์ต่างๆ กับแนวโน้มในอนาคตได้ โดยสามารถที่จะรู้ได้ว่าจะใช้เรื่องไหน จัดการกับอะไรในอนาคต 9. อธิบายให้ "เด็กเข้าใจ" หลังจากสืบเสาะค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยตัวเองแล้ว ต้องสามารถที่จะสื่อสารความคิดและความรู้ในเรื่องนั้นๆ ออกมาอย่างเข้าใจง่ายกระทั่งเด็กก็รู้เรื่อง 1O.